คืนค่ำจำนรรค์จา
แสงสุริยาพลัดพาหาย
อากาศแปรปรวนร้าย
ฟ้าที่กลายเป็นมืดดำ
เครื่องบินละลิ่วล่อง
ที่เที่ยวท่องนภานำ
แสงไฟจากตัวลำ
เป็นนัยว่าจะจอดลง
ล้อดิ่งเหยียบถนน
นำผู้คนมาพาส่ง
ล้อลื่นจากทางคง
ชนเนินดินในข้างทาง
ไฟลุกทั้งตัวลำ
เป็นควันดำทั้งหัวหาง
เรือแล่นบ่สุดทาง
ต้องมาค้าง ณ เนินตาย
ผู้คนนับเนื่องร้อย
ที่ต่างคอยถึงที่หมาย
เครื่องแล่นสู่วอดวาย
คืนที่ร้ายชีพที่ปลง
แปดสิบเก้าชีวิตเจ้า
ที่แสนเศร้าต้องดับลง
ดั่งโททนต์เสน่งคง
ชีวิตเจ้าต้องเล่าขาน
ว่าชีพต้องพลัดพราก
ต้องลาจากบ่สืบสาน
ชะตาบ่ได้ทนทาน
ณ วันวาน สูญสิ้นไป
แฝดพี่คลาดแฝดน้อง
ผัวเมียสองขาดหายใจ
แม่พ่อรอลูกไซร้
กลับมาไร้ซี่งชีวา
น้ำตาคลอเบ้าคน
ต้องเสียหล่นจนเป็นบ้า
คนที่จะมาหา
ก็บ่ได้ยลตากัน
คนที่เพิ่งจะไป
สักวันไซร้จะกลับมา
แต่แล้วอนิจจา
ต้องวายวา ณ เกาะไกล
คนที่คิดมาสุข
กลับพบทุกข์โหมเข้าใส่
คนที่รัก ณ แดนไกล
พิราลัยทำเศร้าหมอง
โอ้ชีพที่พลัดพราก
โอ้อากาศคืนคะนอง
หัวใจเคยอยู่สอง
วันนี้ล่องไปแดนใด
อำลาชีวิตโศก
ขอบุญโบกวิญญาณไกล
เปลี่ยนภพสงบใจ
เป็นอยู่ไซร้ไร้กังวล
แด่ผู้ต้องสูญเสีย
คนอ่อนเพลียแสนสับสน
พลัดพรากชีวิตคน
ที่ตนรักต้องจากไป
จงทนและสู้ต่อ
เพื่อชีวิตที่สดใส
คนเป็นต้องยิ้มได้
คนจากไปจึงยินดี
แด่ผู้มีชีวิต
จงพินิจคิดถ้วนถี่
ชีวิตคนเรานี้
ต้องระแวดระวังภัย
ถึงที่สุดอนิจจา
ต้องคลาดคลาจากภพไป
บำเพ็ญบุญบริสุทธิ์ใจ
จึงจากไปไร้ทุกขี
กลอนบทจึงจบสิ้น
แต่ไอกลิ่นบ่หายไป
โศกนาฏกรรมที่เกิดไซร้
ระลึกไปอีกยาวนาน
วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2550
วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2550
พัทยา (Pattaya)
ฝุ่นเถ้าของมวนบุหรี่ถูกนิ้วชี้ขวาของเขาเคาะให้ตกลงมาเหมือนสายฝน สายตาของเขามองไปทั่วดินแดนแห่งความแสงสีในยามค่ำคืนจากชั้น 10 ของโรงแรม แววตาที่หนักแน่น จิตใจที่ยากจะหยั่งรู้ มันเป็นกาแรมมวนที่ 5 แล้วที่เขาสูบติดๆกัน
"กูว่ามึงสูบหนักเกินไปแล้วว่ะไอ้ชาติ มึงคิดอะไรของมึงอยู่วะ"
เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆตัวของเขา
"กูกำลังคิดว่าคืนนี้เราน่าจะหาอะไรทำ ไหนๆก็มาถึงพัทยาแล้ว"
"มึงยังไม่เลิกอีกเหรอวะ นี่เรามาพักผ่อนสบายๆนะ"
ชาติเอามือตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ
"ไอ้นนท์ บางอย่างที่เป็นเรา จะยังไงซะมันก็ต้องเป็นเรา"
นนท์ยิ้นฝืนๆ นี่เขาจะต้องกลับไปสู่วงจรเช่นนั้นอีกแล้วหรือนี่
พัทยาใต้ในยามค่ำคืนดาษดื่นไปด้วยแสงสีตระกานตา เมืองๆนี้ดูเหมือนไม่เคยหลับไหลมาเป็นเวลานานแสนนาน คนเดินไปทั่วถนนคนเดินในพัทยาใต้ หลายคนเป็นฝรั่งผมทองที่มาเที่ยวช็อปปิ้งหาเนื้อสดในเมืองไทย และอีกหลายคนเป็นคนไทย ที่เป็นพ่อค้าขายเนื้อสด ไม่ก็เป็นเนื้อสดให้ฝรั่งหัวทองลากจูงไป
ชาติ จีรยุทธ์ และนนท์เพื่อนรัก เพื่อนที่เขาเพิ่งจะมารู้จักหลังจากทำภารกิจไปได้ระยะหนึ่ง ทั้งคู่คงเดินต่อไปท่ามกลางฝูงชน พลันชายในแว่นดำก็เดินเข้ามาสะกิดชาติ
"พี่สนใจดูโชว์มั้ย เรามีทั้งโชว์ปิงปอง โชว์เปิดขวด โชว์หั่นแตงกวา โชว์..."
"อ้อ อ้อ ผมรู้แล้วล่ะ รู้แล้ว พาผมขึ้นไปหน่อยสิ"
เงิน 200 บาทถูกวางบนมือของผู้นำทาง ก่อนที่ชายทั้ง 3 จะเดินเข้าไปด้วยกัน
ทางขึ้นของมันช่างมืดสลัว กลิ่นบุหรี่คลุ้งปนไปกลับกลิ่นเหงื่อตลอดทางเดิน สมกับเป็นสถานโลกีย์ชื่อดัง ชาติ และนนท์เดินทางไปถึงบริเวณแสดงโชว์ เบื้องหน้าเป็นเวทีแสดงลีลาของหญิงสาวอย่างเร้าร้อน สายตาของชาย 2 คนจ้องมองไปยังหญิงสาว 2-3 คนบนเวที มุมปากของชาตินั้นยิ้มอย่างมีเลศนัย "เด็กๆผมเป็นไง ถ้าพี่ชอบ จะต่อก็ได้นะ แค่พันเดียวได้ทั้งคืน" เงินอีก 1000 บาทถูกวางลงบนมือคนคนเดิม จากคนคนเดิม
ผ่านไปราว 1 ชม. การแสดงอันแสนอุบาทว์ก็จบลง ตั้งแต่การเปิดขวด หั่นแตงกวา จนกระทั่งการแสดงอันลือลั่นคือการตีปิงปอง หญิงผู้แสดงซึ่งถูกธนบัตรสีขาว ตีตราจองก็ลงมาหาชายเจ้าของเงิน
"นี่เลยพี่ ทีเด็ดของทางเราเลย ราคาเท่านี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ อีนางนี่ชื่อ แจน"
ชาติไม่มีสีหน้าใดๆ สายตาเหลือบมองรอยแผลที่ไหล่ถัดจากสายเดี่ยวของหญิงสาวไปไม่ถึง 2 คืบ เขาพาแจน ออกไปจากที่นั่น
มือนั่นจับมือหญิงสาวแห่งโลกโลกีย์แน่น พาเดินไปยังโรงแรมจิ้งหรีดที่เขาพักซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจาก ถนนคนเดิน แจนนั่งลงบนเตียง แต่ชาติยังยืนอยู่
"พี่จะทำเลยมั้ย" หญิงสาวถามตามความคุ้นเคย
อาจเป็นเพราะความงงที่ชายผู้ซื้อเธอยังคงยืนนิ่ง
ชาติ จีรยุทธ์ ลากเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาหญิงสาว ปากของเขาเอ่ยคำมาเป็นครั้งแรก
"ไอ้ตึกนั่นมีทางออกลับอยู่ที่ไหน!!"
"นี่พี่เป็นใครกัน"
"อย่าตกใจ ผมไม่ได้มาเที่ยวผู้หญิง หรือมาดูโชว์อุบาทว์นั่น ผมจ่ายเงินให้คุณเพราะต้องการถามคำถาม"
"คุณจะถามอะไร"
"อย่างที่ผมถามไปแล้ว ตึกนั่นมีทางออกฉุกเฉินทางไหนบ้าง"
"จะรู้ไปเพื่ออะไร"
"อาคารนั่นเป็นแหล่งค้าผู้หญิงผิดกฎหมายหนึ่งในหลายๆแห่งของพัทยา ผมต้องการจะจัดการเผามัน ให้เป็นตัวอย่างกับที่อื่นๆ ไม่ให้เอาตามอย่าง ทางออกฉุกเฉินทำให้ผมสามารถบอกตำรวจให้รวบตัวมันตอนหนีได้ ผมรู้ว่าที่นี่ซื้อตัวคุณมา พวกมันทำเลวร้ายกับคุณไว้มาก แผลของคุณคงจะมีทั่วหลัง ผมมาที่นี่เพื่อช่วยคุณกับผู้หญิงทุกๆคน"
หญิงสาวมองดูแผลที่ไหล่ของตนเองแล้วพลันน้ำตาไหล หล่อนคงนึกถึงชีวิตที่ต้องประสบมา
"คุณจะบอกผมได้หรือยัง"
"ได้ค่ะ ฉันจะบอก แต่คุณต้องสัญญากับฉันนะคะว่าห้ามบอกใคร"
"สัญญาครับ"
"ทางออกอยู่หลังตู้หนังสือของผู้จัดการที่ชั้น 3 ค่ะ มันเป็นทางออกฉุกเฉิน แต่ถ้าเปิดประตูออกไปแล้วจะไม่มีบันไดหรืออะไรทั้งสิ้น แต่พวกมันจะกระโดดจากประตูนั้นไปยังอีกตึกนึงซึ่งเป็นร้านอาหารธรรมดา เป็นของพวกมันเช่นกัน"
"ผมถามไม่ผิดคนจริงๆ คุณรู้ได้ยังไง"
"ความจริงฉันเป็นสายให้ตำรวจค่ะ ฉันติดต่อกับตำรวจมานานแล้วกำลังหาหลักฐานอยู่ แต่ถ้าทำตามอย่างคุณมันรวดเร็วดี"
"ขอบคุณครับ" ชาติขอบคุณอย่างนอบน้อม
พลันมือนั้นก็จับโทรศัพท์มือถือ ต่อถึงนนท์เพื่อนรัก
"ไอ้นนท์ ก็ได้ข้อมูลแล้ว อีนังนี่เองที่เปิดเผยข้อมูลของนาย!!"
"นี่มันอะไรกัน!! " แจนตกใจทำอะไรไม่ถูก
"มึงมันอีหน้าโง่ คิดจะหักหลังเจ้านาย เค้าจ้างให้กูมาจัดการมึง"
ประตูห้องเปิด นนท์เพื่อนรักเดินเข้ามา
"มึงจัดการมันเลย" ชาติบอกเพื่อนรัก
นนท์ชักปืนอัตโนมัติใส่ที่เก็บเสียงขึ้นมา
ปืนนั้นจ่อที่หัว
หัวของชาติ
เหงื่อนั้นไหลพราก
"อะไรของมึง ทำไม!!" คำถามชาติที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และความกลัว
"กู ร.ต.อ. มานนท์ เมธาลัย เป็นสายให้ตำรวจ กูมาตามจับมึง ไอ้ขี้ข้าคนเลว"
"แล้วมึงมีหลักฐานอะไร" อดีตเพื่อนรักถามนนท์
"เทปไง"
"เทปอะไร"
"เทปที่มึงพูดกับแจน ไม่ใช่สิ ร.ต.ต. หญิง เจนจิรา ปัญญาวงศ์ ตะหาก"
หญิงสาวลุกขึ้นมา พร้อมดึงเทปที่อัดไว้จากกระเป๋ากางเกงมาให้ดู
"หลังจากกูจับมึงแล้ว กูก็จะสะสางงานอีกซักหน่อย แล้วค่อยจัดการกับเจ้าของตึกนั่น"
"คุณมีอะไรต้องจัดการก่อนหน้านั้นอีก" ตำรวจหญิงถาม
"ก็ฆ่ามึงทั้งคู่ แล้วก็ขู่เอาเงินจากเจ้าของตึก แล้วค่อยเรียกตำรวจจับมัน ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง ฮ่าๆ"
เสียงปืนดังปั้ง ร่างของชาติล้มลง เลือดนองพื้น
ปืนนั่นเปลี่ยนทิศไปจ่อที่หัวของเจนจิรา
"มึงตายซะ"
นนท์ กำลังจะเหนี่ยวไก พลันก็มือปืนอีกกระบอกจ่อที่หัวเขา
"วางปืนลง นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุณถูกจับแล้ว"
เจนจิราได้ทีเตะปืนหลุดจากมือของนนท์ ตำรวจผู้ชายที่ตามมาทีหลังเข้ารวบตัว ร.ต.อ.นนท์ ทันที
"นี่ คุณ!!"
"ฉันไม่ไว้คุณมาตั้งแต่ต้นแล้ว ฉันเลยให้ตำรวจนายอื่นๆตามมาดูด้วย"
ร.ต.อ. นนท์ ถูกจับกุม
วันต่อมาเจ้าของตึกนั่นก็ถูกจับ เมืองพัทยาสะอาดขึ้นอีกเล็กน้อย
เจนจิราเดินไปตามทาง พัทยายังคงเป็นแหล่งทำร้ายผู้หญิงที่เธอต้องจัดการชะล้างต่อไป ร่างนั้นเดินไปตามถนนคนเดิน
พัทยาใต้ในยามค่ำคืนดาษดื่นไปด้วยแสงสีตระกานตา เมืองๆนี้ดูเหมือนไม่เคยหลับไหลมาเป็นเวลานานแสนนาน คนเดินไปทั่วถนนคนเดินในพัทยาใต้ เจนหันไปมองที่หน้าตึกตึกหนึ่งในถนนคนเดิน ชาย 2 คนคุยกันอยู่ที่หน้าตึก "พี่สนใจดูโชว์มั้ย เรามีทั้งโชว์ปิงปอง โชว์เปิดขวด โชว์หั่นแตงกวา โชว์..."
"กูว่ามึงสูบหนักเกินไปแล้วว่ะไอ้ชาติ มึงคิดอะไรของมึงอยู่วะ"
เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆตัวของเขา
"กูกำลังคิดว่าคืนนี้เราน่าจะหาอะไรทำ ไหนๆก็มาถึงพัทยาแล้ว"
"มึงยังไม่เลิกอีกเหรอวะ นี่เรามาพักผ่อนสบายๆนะ"
ชาติเอามือตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ
"ไอ้นนท์ บางอย่างที่เป็นเรา จะยังไงซะมันก็ต้องเป็นเรา"
นนท์ยิ้นฝืนๆ นี่เขาจะต้องกลับไปสู่วงจรเช่นนั้นอีกแล้วหรือนี่
พัทยาใต้ในยามค่ำคืนดาษดื่นไปด้วยแสงสีตระกานตา เมืองๆนี้ดูเหมือนไม่เคยหลับไหลมาเป็นเวลานานแสนนาน คนเดินไปทั่วถนนคนเดินในพัทยาใต้ หลายคนเป็นฝรั่งผมทองที่มาเที่ยวช็อปปิ้งหาเนื้อสดในเมืองไทย และอีกหลายคนเป็นคนไทย ที่เป็นพ่อค้าขายเนื้อสด ไม่ก็เป็นเนื้อสดให้ฝรั่งหัวทองลากจูงไป
ชาติ จีรยุทธ์ และนนท์เพื่อนรัก เพื่อนที่เขาเพิ่งจะมารู้จักหลังจากทำภารกิจไปได้ระยะหนึ่ง ทั้งคู่คงเดินต่อไปท่ามกลางฝูงชน พลันชายในแว่นดำก็เดินเข้ามาสะกิดชาติ
"พี่สนใจดูโชว์มั้ย เรามีทั้งโชว์ปิงปอง โชว์เปิดขวด โชว์หั่นแตงกวา โชว์..."
"อ้อ อ้อ ผมรู้แล้วล่ะ รู้แล้ว พาผมขึ้นไปหน่อยสิ"
เงิน 200 บาทถูกวางบนมือของผู้นำทาง ก่อนที่ชายทั้ง 3 จะเดินเข้าไปด้วยกัน
ทางขึ้นของมันช่างมืดสลัว กลิ่นบุหรี่คลุ้งปนไปกลับกลิ่นเหงื่อตลอดทางเดิน สมกับเป็นสถานโลกีย์ชื่อดัง ชาติ และนนท์เดินทางไปถึงบริเวณแสดงโชว์ เบื้องหน้าเป็นเวทีแสดงลีลาของหญิงสาวอย่างเร้าร้อน สายตาของชาย 2 คนจ้องมองไปยังหญิงสาว 2-3 คนบนเวที มุมปากของชาตินั้นยิ้มอย่างมีเลศนัย "เด็กๆผมเป็นไง ถ้าพี่ชอบ จะต่อก็ได้นะ แค่พันเดียวได้ทั้งคืน" เงินอีก 1000 บาทถูกวางลงบนมือคนคนเดิม จากคนคนเดิม
ผ่านไปราว 1 ชม. การแสดงอันแสนอุบาทว์ก็จบลง ตั้งแต่การเปิดขวด หั่นแตงกวา จนกระทั่งการแสดงอันลือลั่นคือการตีปิงปอง หญิงผู้แสดงซึ่งถูกธนบัตรสีขาว ตีตราจองก็ลงมาหาชายเจ้าของเงิน
"นี่เลยพี่ ทีเด็ดของทางเราเลย ราคาเท่านี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ อีนางนี่ชื่อ แจน"
ชาติไม่มีสีหน้าใดๆ สายตาเหลือบมองรอยแผลที่ไหล่ถัดจากสายเดี่ยวของหญิงสาวไปไม่ถึง 2 คืบ เขาพาแจน ออกไปจากที่นั่น
มือนั่นจับมือหญิงสาวแห่งโลกโลกีย์แน่น พาเดินไปยังโรงแรมจิ้งหรีดที่เขาพักซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจาก ถนนคนเดิน แจนนั่งลงบนเตียง แต่ชาติยังยืนอยู่
"พี่จะทำเลยมั้ย" หญิงสาวถามตามความคุ้นเคย
อาจเป็นเพราะความงงที่ชายผู้ซื้อเธอยังคงยืนนิ่ง
ชาติ จีรยุทธ์ ลากเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาหญิงสาว ปากของเขาเอ่ยคำมาเป็นครั้งแรก
"ไอ้ตึกนั่นมีทางออกลับอยู่ที่ไหน!!"
"นี่พี่เป็นใครกัน"
"อย่าตกใจ ผมไม่ได้มาเที่ยวผู้หญิง หรือมาดูโชว์อุบาทว์นั่น ผมจ่ายเงินให้คุณเพราะต้องการถามคำถาม"
"คุณจะถามอะไร"
"อย่างที่ผมถามไปแล้ว ตึกนั่นมีทางออกฉุกเฉินทางไหนบ้าง"
"จะรู้ไปเพื่ออะไร"
"อาคารนั่นเป็นแหล่งค้าผู้หญิงผิดกฎหมายหนึ่งในหลายๆแห่งของพัทยา ผมต้องการจะจัดการเผามัน ให้เป็นตัวอย่างกับที่อื่นๆ ไม่ให้เอาตามอย่าง ทางออกฉุกเฉินทำให้ผมสามารถบอกตำรวจให้รวบตัวมันตอนหนีได้ ผมรู้ว่าที่นี่ซื้อตัวคุณมา พวกมันทำเลวร้ายกับคุณไว้มาก แผลของคุณคงจะมีทั่วหลัง ผมมาที่นี่เพื่อช่วยคุณกับผู้หญิงทุกๆคน"
หญิงสาวมองดูแผลที่ไหล่ของตนเองแล้วพลันน้ำตาไหล หล่อนคงนึกถึงชีวิตที่ต้องประสบมา
"คุณจะบอกผมได้หรือยัง"
"ได้ค่ะ ฉันจะบอก แต่คุณต้องสัญญากับฉันนะคะว่าห้ามบอกใคร"
"สัญญาครับ"
"ทางออกอยู่หลังตู้หนังสือของผู้จัดการที่ชั้น 3 ค่ะ มันเป็นทางออกฉุกเฉิน แต่ถ้าเปิดประตูออกไปแล้วจะไม่มีบันไดหรืออะไรทั้งสิ้น แต่พวกมันจะกระโดดจากประตูนั้นไปยังอีกตึกนึงซึ่งเป็นร้านอาหารธรรมดา เป็นของพวกมันเช่นกัน"
"ผมถามไม่ผิดคนจริงๆ คุณรู้ได้ยังไง"
"ความจริงฉันเป็นสายให้ตำรวจค่ะ ฉันติดต่อกับตำรวจมานานแล้วกำลังหาหลักฐานอยู่ แต่ถ้าทำตามอย่างคุณมันรวดเร็วดี"
"ขอบคุณครับ" ชาติขอบคุณอย่างนอบน้อม
พลันมือนั้นก็จับโทรศัพท์มือถือ ต่อถึงนนท์เพื่อนรัก
"ไอ้นนท์ ก็ได้ข้อมูลแล้ว อีนังนี่เองที่เปิดเผยข้อมูลของนาย!!"
"นี่มันอะไรกัน!! " แจนตกใจทำอะไรไม่ถูก
"มึงมันอีหน้าโง่ คิดจะหักหลังเจ้านาย เค้าจ้างให้กูมาจัดการมึง"
ประตูห้องเปิด นนท์เพื่อนรักเดินเข้ามา
"มึงจัดการมันเลย" ชาติบอกเพื่อนรัก
นนท์ชักปืนอัตโนมัติใส่ที่เก็บเสียงขึ้นมา
ปืนนั้นจ่อที่หัว
หัวของชาติ
เหงื่อนั้นไหลพราก
"อะไรของมึง ทำไม!!" คำถามชาติที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และความกลัว
"กู ร.ต.อ. มานนท์ เมธาลัย เป็นสายให้ตำรวจ กูมาตามจับมึง ไอ้ขี้ข้าคนเลว"
"แล้วมึงมีหลักฐานอะไร" อดีตเพื่อนรักถามนนท์
"เทปไง"
"เทปอะไร"
"เทปที่มึงพูดกับแจน ไม่ใช่สิ ร.ต.ต. หญิง เจนจิรา ปัญญาวงศ์ ตะหาก"
หญิงสาวลุกขึ้นมา พร้อมดึงเทปที่อัดไว้จากกระเป๋ากางเกงมาให้ดู
"หลังจากกูจับมึงแล้ว กูก็จะสะสางงานอีกซักหน่อย แล้วค่อยจัดการกับเจ้าของตึกนั่น"
"คุณมีอะไรต้องจัดการก่อนหน้านั้นอีก" ตำรวจหญิงถาม
"ก็ฆ่ามึงทั้งคู่ แล้วก็ขู่เอาเงินจากเจ้าของตึก แล้วค่อยเรียกตำรวจจับมัน ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง ฮ่าๆ"
เสียงปืนดังปั้ง ร่างของชาติล้มลง เลือดนองพื้น
ปืนนั่นเปลี่ยนทิศไปจ่อที่หัวของเจนจิรา
"มึงตายซะ"
นนท์ กำลังจะเหนี่ยวไก พลันก็มือปืนอีกกระบอกจ่อที่หัวเขา
"วางปืนลง นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุณถูกจับแล้ว"
เจนจิราได้ทีเตะปืนหลุดจากมือของนนท์ ตำรวจผู้ชายที่ตามมาทีหลังเข้ารวบตัว ร.ต.อ.นนท์ ทันที
"นี่ คุณ!!"
"ฉันไม่ไว้คุณมาตั้งแต่ต้นแล้ว ฉันเลยให้ตำรวจนายอื่นๆตามมาดูด้วย"
ร.ต.อ. นนท์ ถูกจับกุม
วันต่อมาเจ้าของตึกนั่นก็ถูกจับ เมืองพัทยาสะอาดขึ้นอีกเล็กน้อย
เจนจิราเดินไปตามทาง พัทยายังคงเป็นแหล่งทำร้ายผู้หญิงที่เธอต้องจัดการชะล้างต่อไป ร่างนั้นเดินไปตามถนนคนเดิน
พัทยาใต้ในยามค่ำคืนดาษดื่นไปด้วยแสงสีตระกานตา เมืองๆนี้ดูเหมือนไม่เคยหลับไหลมาเป็นเวลานานแสนนาน คนเดินไปทั่วถนนคนเดินในพัทยาใต้ เจนหันไปมองที่หน้าตึกตึกหนึ่งในถนนคนเดิน ชาย 2 คนคุยกันอยู่ที่หน้าตึก "พี่สนใจดูโชว์มั้ย เรามีทั้งโชว์ปิงปอง โชว์เปิดขวด โชว์หั่นแตงกวา โชว์..."
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)