วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คงคู่กาล ให้ลูกหลาน ได้บูชา

อาลัยแด่การจากไปของคุณตา - เชวง สมสาร (พระมหาบุญมี อเวรี (สมสาร) เมื่อครั้งยังอุปสมบทที่วัดบรมนิวาส )






ตะวันลอย คล้อยขึ้น จากขอบฟ้า
ส่องภาคพื้น พสุธา รับวันใหม่
ชีวิตเกิด เป็นตาย นานาไป
ล้วนภายใต้ เกณฑ์ใน วัฏฏะกรรม


เมื่อเกิดก็ มีแก่เจ็บ และดับสูญ
จะจำรูญ เท่าใด ก็เท่านั้น
มังสาน้อย แนบเนื้อ ขาวเจือคล้ำ
ที่สุดกรรม พาให้เป็น เช่นเถ้าถ่าน


ทิ้งชื่อเสียง เพียงกรรมดี ที่ปรากฏ
ที่จะยก เป็นเรื่องราว ให้เล่าขาน
กรรมเคยก่อ กรรมใด เป็นตำนาน
คงคู่กาล ให้ลูกหลาน ได้บูชา


เมื่อพุธ วันพระที่ ยี่สิบสอง
“คุณตา”ต้อง สิ้นใจ จากภพหล้า
ฝนฟ้าเกรี้ยว สาดเท ทั่วทั้งฟ้า
เหมือนจะพร่ำ พรรณนา ในคราไป


เป็นองก์ปิด เก้าสิบสอง ครองชีวิต
ที่ควรหวน มาคิด มากราบไหว้
ว่าตอนอยู่ โลกนี้ ที่ทำไป
ท่านได้สร้าง กรรมดีไว้ นานาการณ์


จากท้องนา ท้องดิน ถิ่นร้อยเอ็ด
“เชวง” เด็ก ตัวน้อย ใจกล้าหาญ
เดินเท้าเปล่าจาก ที่นา มาเนิ่นนาน
เพื่อจะเรียน เพิ่มพาน หาวิชา


อุปสมบท เป็นพระ อยู่จำวัด
จบเปรียญ ถึงเก้าหลัก เป็นมหา
แล้วสึกออก เรียนกฏหมาย ในต่อมา
จึงอาสา รับราชการ เป็นงานทำ


กระทรวงวัฒนธรรม และกรมศุล
คือที่“คุณ ตา”อยู่ เวลานั้น
ย้ายถิ่นฐาน เหนือใต้ พัลวัน
ก่อเสริมคุณ เป็นอนันต์ ให้ธานี


ได้ชื่อเป็น ข้าราชการ ผู้ซื่อสัตย์
มีพออยู่ อย่างประหยัด ตามวิถี
เป็นนิสัย การเลี้ยงตน ตามพอดี
เป็นเรื่องที่ น่าชื่นชม เมื่อยลยิน


มีนิสัย อดออม มัธยัสถ์
สมถะ ครองธรรม นำชีวิน
รักษา สุขภาพกาย สมบูรณ์สิ้น
จึงอยู่กิน ครองวัย เกือบร้อยปี


ด้วยภาวะ แห่งกรรม นำพาโศก
ถึงวันโลก ต้องจากท่าน ในนาที
สื่อสัญญาณ สิ้นบุญ ของคนดี
สื่อว่าเป็น วันที่ ต้องเสียดาย


นาม “เชวง” แปลว่า ความรุ่งเรือง
จะเป็นเรื่อง เล่าขาน กันเอาไว้
“คุณตา”ห่าง “เด็กท้องนา” มาแสนไกล
เป็นถึงข้า -ราชการใหญ่ ใช้แผ่นดิน


พลันแล้วลับ ตะวันลา ตามกำหนด
แสงจึงหมด จากฟากฟ้า ที่ผกผิน
จึงลับดวง หลังหลืบเขา เข้าแผ่นดิน
สื่อการสิ้น วันดี ที่สมบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

Winn On Youtube

Pedestrain On TV (บังเอิญมาก)