ระเรื่อเรื่อยเลื้อยกายมาหมอชิด
จากคำเชิญเพื่อนรักแสนสนิท
หวังเต็มจิตจะมาร่วมสนุกสนาน
เมื่อมาถึงเจอผองเพื่อนนานาคน
สุขกมลจะเดินทางไกลจากบ้าน
ใช้รถทัวร์นครชัยแอร์พาหะยาน
เพื่อเดินทางไปท่านครพิงค์
นั่งในรถเดินทางก็หลับผ๋อย
คนตัวน้อยนอนพับหลับแน่นิ่ง
ตื่นนอนแลก็ถึงตัวเมืองพิงค์
รถแดงวิ่งมารับในทันควัน
รถรับจ้างพาคณะถึงบ้านใหญ่
มีนามไซร้เรียกขาน “โอสถาพันธุ์”
เป็นของลุงเพื่อนเราที่แบ่งปัน
ให้ได้นอนอาศัยกันอย่างอารีย์
ตัวบ้านนั้นเป็นอาคารสวย
ประดับด้วยสิ่งของช่างดูดี
ยินว่าบ้านมีศักดิ์มีราศี
รับรางวัลสถานที่ยอดนิยม
รูปลักษณ์บ้านเป็นทรงทันสมัย
ทั้งภายในเป็นแต่งประดาช่างน่าชม
ตัวบ้านวางทางละเมียดละเลียดลม
สระน้ำก็สุดสมช่างดูงาม
พลันเก็บของก็ออกลาจากบ้าน
เพื่อพบพาน “พืชสวนโลก” ดังคำขาน
เราเดินทางออกไปไม่เนิ่นนาน
ถึงสถานชื่อดังช่างน่าดู
เรียงแถวตามเด็กแลผู้ใหญ่
เราเดินไปตามทางที่วางอยู่
เมื่อผ่านเข้าก็ขึ้นรถเพื่อชมด
เพื่อจะรู้ว่าสถานใดหน้าไปเยือน
รถแล่นถึงสถานีที่สาม
เราก็ตามกันลงคนกลาดเกลื่อน
ณ ที่นั้น “หอคำหลวง” ที่ว่าเหมือน
จะเป็นสิ่งย้ำเตือนในงานนี้
เราเดินเข้าดูหออย่างตื่นเต้น
ผู้คนเต็มล้นออกละล้นที่
เดินชมทั่วทั้งหอชุดแสนดี
แล้วก็ออกจากที่นี่เดินต่อไป
ดูสวนของประเทศนานาชาติ
ทั้งญี่ปุ่น จีน ช่างประหลาดน่าดูใหญ่
ฮอลันดา เบลเยี่ยม ที่แสนไกล
ก็จัดไว้อย่างน่าชมเต็มติดตา
ทั้งภูฏาณ ลาว เขมร และเวียดนาม
น่าเกรงขามในสวนมีมนตรา
สวนระเรี่ยเขียวขจีทั้งทั่วหล้า
สุขนักหนาที่ได้ชมได้เดินดู
แล้วยังไปตามสวนบริษัท
ที่มาจัดมาแสดงอย่างพลั่งพลู
ธนาคาร ห้างร้าน จัดสรรแสดงสู้
ผู้คนดูเปี่ยมยินดีปรีดานอง
ผ่านจุดนั้นก็กินภัตราหาร
ในสถานที่จัดเตรียมไว้รับรอง
เป็นอาหารที่ประหยัดไว้รองท้อง
เรากินแล้วเราก็นอนพักกายา
พักหลับนอนสักพักก็ตื่นขึ้น
ตาถลึงเดินต่อด้วยความล้า
เพราะเหตุต้องแข่งขันกับเวลา
จึงย้ำขาเดินพากายาไป
เดินดูพืชนานาหลากชนิด
แล้วก็ติดใบโพธิ์ที่ต้นไม้
เพื่อเทิดเกียรติราชาอ้าองค์ไท้
เขียนชื่อไว้ประดับประดับองค์
นอกนี้ยังได้ดื่มชาช่างน่าพิศ
“อูหลง” จิบที่ว่าราคาหงส์
กิโลกรัมหลายหมื่นเห็นแล้วปลง
แต่ได้ดมได้ชิมน่ายินดี
แล้วเดินทางไปต่อที่สวนสัตว์
เรียกให้ชัดชื่อว่า “ไนท์ซาฟารี”
เป็นสวนสัตว์ที่ท่องเที่ยวยามราตรี
ดูสิ่งมี ชีวิตพินิจชม
ได้ดูเห็นเสือโคร่งสิงโตใหญ่
จิ้งจอกไซร้เลียงผาฮิปโปกลม
นกกระจอกเทศ อีมู ช่างน่าชม
ทั้งตัวสม-เสร็จช้างกระทิงดำ
ทั้งหมีควายหมีหมาน่าพินิจ
ดูแล้วคิดไปไกลช่างนึกขำ
เปรียบพฤติกรรมสัตว์กับคนสนุกมัน
ยอกล้อกันเล่นขันช่างสุขใจ
แล้วเดินทางกลับบ้านหลังเดิมนั้น
“โอสถาพันธุ์” ยังต้อนรับเรากันใหญ่
ได้นอนพักในบ้านแสนสบายใจ
หลับนอนไปเก็บแรงไว้พองาม
นอนพักกายที่บ้านในคืนแรก
เช้าก็แบกกายาขึ้นรถตาม
เพื่อจะไปกินโจ้กอร่อยกันสักชาม
ณ ที่ร้าน “สมเพชร” เอร็ดดี
กินโจ้กพลางก็กินปลาท่องโก๋
อร่อยโก้สุขสม-สมบูรณ์ศรี
แล้วเดินทางไปเที่ยววัดช่างสวยดี
แล้วต่อที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
ได้รู้เรื่องการตั้งเมืองเชียงใหม่
สามบพิตรคิดการไซร้ในใจวาด
ผู้พิชิตครอบครองมีอำนาจ
เหนือถิ่นภาคนครพิงค์อันยิ่งยง
ลางบอกเหตุมีแจ้งในหลายอย่าง
ทั้งหนูใหญ่มาสามแม่ลูกสม
ทั้งช้างพังเดินแม่ลูกน่าดูชม
แล้วอีกหลายสิ่งสมเปี่ยมปิตี
จึงดำริสร้างเมืองนครพิงค์
ที่สามารถคุมทุกถิ่นนานนับปี
เป็นเมืองหลวงล้านนาน่าสุนทรีย์
ครองเช่นนี้โดยกษัตริย์หลายพระองค์
ครั้น ร.หนึ่งทรงเสด็จขึ้นครองราชย์
ตั้งหลวงชาตินครพิงค์มีศรีสม
ให้ปกครองเป็นใหญ่อย่างอาจองค์
ระรวมพลสร้างเมืองอันยิ่งใหญ่
สืบต่อหลวงผู้ครองแดนได้ถึงเก้า
ปฏิวัติก็น้าวสู่วันใหม่
เชียงใหม่เป็นเพียงจังหวัดของชาติไทย
ยะอยู่ไปโดยไร้กษัตริยา
ได้ทราบเรื่องเชียงใหม่มาโดยคร่าว
ออกจากนั้นซื้อเหล้ามาหลายฝา
แล้วเดินทางขึ้นดอยสูงสุดตา
เพื่อจะมาพิชิตสุดยอดแดน
เดินทางไปพักสถาน “บ้านไผ่
-ไพรวัน”ไซร้ขนานนามบ้านสุขแสน
กินข้าวเย็นแล้วนั่งเล่นในต่างแดน
กินเบียร์แล่นจนหลับตอนค่ำคืน
ตื่นตอนเช้าออกจากบ้านก่อนวันรุ่ง
รถตู้พุ่งไปยอดดอยไม่คิดฝืน
ถึงจุดยอด ”อินทนนท์” ได้หยัดยืน
สูงกว่าทั่วที่อื่นในแดนไทย
ณ ที่นั้นอุณหภูมิช่างเหน็บหนาว
กายสั่นเร้าสะท้านลมสุดบอกได้
ต่ำสุดที่หนึ่งองศาพาตาลาย
หนาวทั่วกายต้องเพิ่มเสื้ออีกหนึ่งตัว
แล้วเดินทางไปต่อทางข้างล่าง
เรียกว่าทาง “กิ่วแม่ปาย” ป่าสลัว
มีน้องน้อยพาเข้าไปจึงไปกลัว
ต้องเดินทั่วสามกิโลจึงกลับมา
ณ ตอนแรกเดินผ่านป่าไม่น่าอยู่
มันอุดอู้ เป็นดงดิบ อารมณ์ป่า
ครั้นพอเดินพ้นเขตพงพนา
ก็พบสถานที่ที่สูงค่ากว่าสิ่งใด
ณ ที่นั้นคือจุดเปลี่ยนของเทือกเขา
จากป่าดิบที่เราเดินผ่านไป
ณ ที่นั้นสามารถเห็นทุ่งหญ้าได้
ตัดป่าไซร้ดูงามกว่าใดปวง
ระเรื่อมองเห็นเส้นขอบฟ้าชัด
สวยตระหงัดกว่าสถานในโลกล้วน
เป็นภาพที่ประดับใจกว่าสิ่งปวง
ในอกทรวงช่างตื้นตันอลังการ
แล้วเดินทางไหว้สถูปเสด็จพ่อ
ที่ทรงก่อสร้างไว้เป็นแก่นสาร
มีสวนดอกไม้สวยงามสุดตระกาน
เห็นสมใจก็พานเดินต่อไป
แล้วดำเนินไปกินข้าวกลางวัน
กินปลามันที่ในหลวงเพาะพันธุ์ไว้
ชื่อ “ปลาเทร้าซ์” ที่ทรงเลี้ยงด้วยใจ
ให้คนไทยมีอาชีพเป็นมั่นคง
เดินทางไหว้ดอยสุเทพคู่บ้านเมือง
ดอยต่อเนื่องสองดอยช่างหน้าขัน
ร่างอ่อนหล้าแต่ต้องเดินด้วยพลัง
เพื่อไปยังถิ่นสถานคู่เชียงใหม่
พระครูบาศรีวิชัยเคยอยู่นี้
หลายร้อยปีคนละยุคแลสมัย
เป็นผู้สร้างวัดวาอารามให้
เป็นผู้สร้างดอยนี้ไซร้ให้ยิ่งยง
แล้วเดินทางไปกินหมูกระทะ
จนอ้วนบะรถตู้ก็ไปส่ง
กลับสู่บ้านพักกายาเป็นมั่นคง
เล่นไพ่แล้วหลับลงอย่างอ่อนเพลีย
ตื่นตอนเช้าเดินทางไปไร่สตรอเบอร์รี่
กินจนพีอร่อยสมไม่มีเสีย
เดินเด็ดผลสุดมันไม่อ่อนเพลีย
เด็ดไปพลางก็เลียแลก็กิน
แล้วเดินทางไปเก็บของที่บ้าน
เดินซื้อของที่สถาน “มโนรถ” ถิ่น
ซื้อไปเดินไปก็พลางกิน
จนท้องอิ่มเป็นมื้อเย็นสุดโอชา
แล้วเดินทางไปต่อถนนคนเดิน
ไปดำเนินซื้อของมากนานา
เราซื้อย่ามสุดสวยสมราคา
ซื้ออีกมาฝากให้คนรอบกาย
และแล้วเราเดินทางกลับเมืองกรุง
ตะวันรุ่งก็ถึง ณ ที่หมาย
ยังระลึกถึงวันผ่านมาได้
ช่างสุขสมฤทัยที่ได้มา
เป็นประสบ-การณ์ศรี ที่ดีเยี่ยม
ได้เยี่ยมเยียนนครพิงค์ตระกานตา
นอกนี้ได้อยู่กับเพื่อนช่างเริงร่า
เป็นวันที่สูงค่าน่าจดจำ
หากมีการเดินทางอีกเราอยากไป
เพราะสุขใจที่ได้ไปได้เดินย่ำ
บนแผ่นดินต่างถิ่นสุดสุขสันต์
เจอผู้คนต่างพันธุ์น่าชมเอย