เพียงเสียงเปรี้ยง ปลายปืน หมดขืนขัด
ร่างหนึ่งพลัด ล้มลง ที่ตรงนี้
เลือดแดงนอง รองพื้นป่า มหาคีรี
ลมยะเยือก พัดทั่วที่ ทั้งพงไพร
เพียงปืนแปลบ ที่สำแดง แห่งอำนาจ
ความสงบ ก็พลันขาด พลันหาไม่
มหากวี มหาบุรุษ แห่งเมืองไทย
ต้องมาตาย กลายจากไป ไร้วิญญาณ
เพียงปืนปัง ดังลั่น สั่นวิเวก
ก็เหมือนมนต์ ที่แช่งเสก ทั้งลูกหลาน
เมื่อคนตาย คือคนดี มีปณิธาน
เมื่อคนเป็น คือเผด็จการ ครอบงำไทย
ร่างนั้นนอน แน่นิ่ง เป็นสิ่งซาก
วิญญาณจาก ล้างลา พ้นร่างไป
ทิ้งไว้เพียง คุณค่า แห่งคนไท
ประกาศไว้ เพียงคุณค่า แห่งตำนาน
ว่าโลกนี้ ไร้ซึ่ง”จิตร ภูมิศักดิ์”
ผู้พิทักษ์ ความชอบธรรม บ่สืบสาน
ประกาศแห่ง นํ้าตา นองตำนาน
ให้ลูกหลาน หวนระลึก ถึงคนดี
ตำนานคน ล้นเปี่ยม ปณิธาน
ที่สืบสาน ก่อค่า มหาศรี
บ่งเรื่องราว เป็นเรื่องคิด ของคนดี
ให้เป็นที่ รับรู้ โดยทั่วกัน
จิตรกำเนิด เกิดที่ ปราจีนบุรี
แล้วเรียนที่ อักษรจุฬาฯ คณะนั้น
บ่มเพาะความ อัจฉริยะ ในคืนวัน
ณ ที่นั้น ได้เพื่อนฝูง อาจารย์ดี
เขียนหนังสือ สื่อความจริง ของประเทศ
สำแดงเดช แห่งอัจฉริยะ แห่งกวี
อุดมการณ์ แห่งความรัก ความภักดี
ก็เกิดขึ้น ณ ตรงนี้ ในจิตใจ
กาลวันผ่าน เรียนจบ จิตรเป็นครู
และเรียนรู้ ถึงคุณค่า อันยิ่งใหญ่
ปณิธาน แข็งแกร่ง แห่งดวงใจ
ผ่านออกไป ทางหนังสือ สื่อกวี
พลันต่อมา โดนกล่าวหา ว่าเป็นซ้าย
ตัวถูกย้าย เข้าเรือนจำ ถึงสามที่
ลูกกรงเหล็ก อาจขังร่าง ของคนดี
แต่บ่อาจ ขังจิตที่ เปี่ยมพลัง
จิตรใช้คุก เขียนตำรา ค่าควรอ่าน
ทั้งแปลความ อันยิ่งใหญ่ สุดแสนขลัง
เรื่อง “แม่” ของกอร์กี้ อันโด่งดัง
และอีกทั้ง “โคทาน” จากอินเดีย
แล้วได้เีขียน มหาตำรา วิชาการ
ที่ได้สาน อ่านกันต่อ ไม่สูญเสีย
ตัวจองจำ ใช่จิตใจ จะจำเพลีย
ปณิธาน ใช่ลายเลี่ย แต่ทระนง
กว่าหกปี ต้องกุมขัง ผนังคุก
แต่มีจิต เพื่อถิ่นทุก ทั่วแดนดง
ว่าจะล้าง เผด็จการ ให้ปลดปลง
ว่าจะสร้าง สังคม ความเท่าเทียม
สองพันห้า ร้อยแปด เ้ข้าอีสาน
เพื่อร่วมงาน พอคอทอ ใจเต็มเปี่ยม
หมั่นศึกษา ทั้งแนวคิด แนวเล่ห์เหลี่ยม
เพื่อสร้างความ ทัดเทียม ให้มวลชน
พลันปรากฏ โดนคนล้อม ณ กลางป่า
ถิ่นหนองกุ่ง ทุ่งภูผา ทิวป่าสน
เสียงปืนเปรี้ยง ดังลั่น ทั้งมณฑล
สิ้นแล้วคน ผู้ยิ่งใหญ่ ในไทยแดน
ลมชะเย็น เป็นพยาน แห่งความยาก
ว่าไทยชาติ นั้นอยู่ ยุคขาดแคลน
หนึ่งคนธรรม สิ้นใจ ไร้คนแทน
เผด็จการ ผู้เคืองแค้น ครองแผ่นดิน
สิ้นแล้วหนา มาแล้วสี่ ทศวรรษ
คนไทยยัง โทมนัส นํ้าตาริน
ประเทศไทย ยังไม่พ้น จากยุคหิน
คนอธรรม์ ยังอยู่กิน กัดบ้านเมือง
ขอวิญญาณ อุดมการณ์ แห่งปรัชญา
ผ่านมาสู่ มหานภา จรัสเรือง
เป็นทางแสง ส่องสว่าง ให้ไทยเมือง
ให้ปลดเปลื้อง จากทุกขกรรม ทำลายเรา
ให้คุณจิตร เป็นนิมิต แห่งฟากฟ้า
เป็นทางแห่ง ดวงตา คนขลาดเขลา
บทเรียนท่าน สอนปณิธาน ต่อพงเผ่า
สานทางเรา ต่อสู้ เพื่อแดนไทย
ร่างหนึ่งพลัด ล้มลง ที่ตรงนี้
เลือดแดงนอง รองพื้นป่า มหาคีรี
ลมยะเยือก พัดทั่วที่ ทั้งพงไพร
เพียงปืนแปลบ ที่สำแดง แห่งอำนาจ
ความสงบ ก็พลันขาด พลันหาไม่
มหากวี มหาบุรุษ แห่งเมืองไทย
ต้องมาตาย กลายจากไป ไร้วิญญาณ
เพียงปืนปัง ดังลั่น สั่นวิเวก
ก็เหมือนมนต์ ที่แช่งเสก ทั้งลูกหลาน
เมื่อคนตาย คือคนดี มีปณิธาน
เมื่อคนเป็น คือเผด็จการ ครอบงำไทย
ร่างนั้นนอน แน่นิ่ง เป็นสิ่งซาก
วิญญาณจาก ล้างลา พ้นร่างไป
ทิ้งไว้เพียง คุณค่า แห่งคนไท
ประกาศไว้ เพียงคุณค่า แห่งตำนาน
ว่าโลกนี้ ไร้ซึ่ง”จิตร ภูมิศักดิ์”
ผู้พิทักษ์ ความชอบธรรม บ่สืบสาน
ประกาศแห่ง นํ้าตา นองตำนาน
ให้ลูกหลาน หวนระลึก ถึงคนดี
ตำนานคน ล้นเปี่ยม ปณิธาน
ที่สืบสาน ก่อค่า มหาศรี
บ่งเรื่องราว เป็นเรื่องคิด ของคนดี
ให้เป็นที่ รับรู้ โดยทั่วกัน
จิตรกำเนิด เกิดที่ ปราจีนบุรี
แล้วเรียนที่ อักษรจุฬาฯ คณะนั้น
บ่มเพาะความ อัจฉริยะ ในคืนวัน
ณ ที่นั้น ได้เพื่อนฝูง อาจารย์ดี
เขียนหนังสือ สื่อความจริง ของประเทศ
สำแดงเดช แห่งอัจฉริยะ แห่งกวี
อุดมการณ์ แห่งความรัก ความภักดี
ก็เกิดขึ้น ณ ตรงนี้ ในจิตใจ
กาลวันผ่าน เรียนจบ จิตรเป็นครู
และเรียนรู้ ถึงคุณค่า อันยิ่งใหญ่
ปณิธาน แข็งแกร่ง แห่งดวงใจ
ผ่านออกไป ทางหนังสือ สื่อกวี
พลันต่อมา โดนกล่าวหา ว่าเป็นซ้าย
ตัวถูกย้าย เข้าเรือนจำ ถึงสามที่
ลูกกรงเหล็ก อาจขังร่าง ของคนดี
แต่บ่อาจ ขังจิตที่ เปี่ยมพลัง
จิตรใช้คุก เขียนตำรา ค่าควรอ่าน
ทั้งแปลความ อันยิ่งใหญ่ สุดแสนขลัง
เรื่อง “แม่” ของกอร์กี้ อันโด่งดัง
และอีกทั้ง “โคทาน” จากอินเดีย
แล้วได้เีขียน มหาตำรา วิชาการ
ที่ได้สาน อ่านกันต่อ ไม่สูญเสีย
ตัวจองจำ ใช่จิตใจ จะจำเพลีย
ปณิธาน ใช่ลายเลี่ย แต่ทระนง
กว่าหกปี ต้องกุมขัง ผนังคุก
แต่มีจิต เพื่อถิ่นทุก ทั่วแดนดง
ว่าจะล้าง เผด็จการ ให้ปลดปลง
ว่าจะสร้าง สังคม ความเท่าเทียม
สองพันห้า ร้อยแปด เ้ข้าอีสาน
เพื่อร่วมงาน พอคอทอ ใจเต็มเปี่ยม
หมั่นศึกษา ทั้งแนวคิด แนวเล่ห์เหลี่ยม
เพื่อสร้างความ ทัดเทียม ให้มวลชน
พลันปรากฏ โดนคนล้อม ณ กลางป่า
ถิ่นหนองกุ่ง ทุ่งภูผา ทิวป่าสน
เสียงปืนเปรี้ยง ดังลั่น ทั้งมณฑล
สิ้นแล้วคน ผู้ยิ่งใหญ่ ในไทยแดน
ลมชะเย็น เป็นพยาน แห่งความยาก
ว่าไทยชาติ นั้นอยู่ ยุคขาดแคลน
หนึ่งคนธรรม สิ้นใจ ไร้คนแทน
เผด็จการ ผู้เคืองแค้น ครองแผ่นดิน
สิ้นแล้วหนา มาแล้วสี่ ทศวรรษ
คนไทยยัง โทมนัส นํ้าตาริน
ประเทศไทย ยังไม่พ้น จากยุคหิน
คนอธรรม์ ยังอยู่กิน กัดบ้านเมือง
ขอวิญญาณ อุดมการณ์ แห่งปรัชญา
ผ่านมาสู่ มหานภา จรัสเรือง
เป็นทางแสง ส่องสว่าง ให้ไทยเมือง
ให้ปลดเปลื้อง จากทุกขกรรม ทำลายเรา
ให้คุณจิตร เป็นนิมิต แห่งฟากฟ้า
เป็นทางแห่ง ดวงตา คนขลาดเขลา
บทเรียนท่าน สอนปณิธาน ต่อพงเผ่า
สานทางเรา ต่อสู้ เพื่อแดนไทย
3 ความคิดเห็น:
ไม่เคยรู้จักคุณจิตรมาก่อนเลยแฮะ ดีๆ
พักนี้เอามาเป็นกลอนตลอดเลยแฮะ อารมณ์ Poetry รึ 55
ขุนโจรกระชากฉุด แม้ชีพชำรุดโลกก็จะลืม
ไม่ได้เข้ามา comment นะ แต่จะมา Congratulations ที่ The Pedestrian Blog ครบรอบ 1 ปีแล้ว ยินดีด้วยนะที่ Blog สามารถอยู่มาจนถึงวันนี้ และมีคนแวะเวียนเข้ามาอ่านอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปีที่ผ่านมา วันนี้ The Pedestrian Blog ก็มีคนรู้จักมากขึ้นเยอะกว่าวันแรก(10 มิ.ย.2550) สำหรับในปีต่อๆไป เราก็ขอให้มีคนเข้ามาอ่านและเยี่ยมชมมากขึ้นๆๆๆอีก แล้วก็อย่าลืมมีผลงานใหม่ๆมาลงเรื่อยๆด้วยเหมือนกันนะ...
แสดงความคิดเห็น